ดอกโจก ดอกปี๋ใหม่ ดอกสารภีน้ำ

0
7360

ช่วงปี๋ใหม่ ถ้าไปกาดละก็จะะเห็น “ดอกโจก”วางขาย เพื่อเตรียมดาครัว เอาดอกโจกไปวัด

ไม่รู้ว่า “ดอกโจก” นี้ นิยมนำมาทำบุญปี๋ใหม่เมืองมาตั้้งแต่เมื่อใด แต่ระยะหลังๆจะเห็นมีวางขายช่วงปี๋ใหม่เมือง จาวบ้านก็นิยมซื้อ ว่าจะเอาไปวัด เชื่อว่า จะมีโจกมีลาภ(คำว่า โจก หมายถึงโชค) 

นอกจากนี้ บางคนยังมีความเชื่อว่า ถ้าปลูกในบ้านก็จะมีโชค ประกอบกับรูปทรงของต้น ยามดอกทั้งต้น สวยงามยิ่งนัก จึงนิยมนำมาปลูกเป็นไม้่ประดับสวน ปลูกในกระถาง ยามเมื่อมีดอก สวยจริงๆ

ไปค้นดู ก็เลยทราบว่า คือดอกสารภีน้ำ จึงขอนำข้อมูลจากหอพรรณไม้ มาบอกต่อค่ะ

ชื่ออื่น   กาบพร้าว (นราธิวาส); สารภีน้ำ (เชียงใหม่); จิก, ดอกปีใหม่ (กาญจนบุรี); แต้วน้ำ (บุรีรัมย์); ปูมปา (เลย); คล้ายสองหู, ผีหน่าย (สุราษฎร์ธานี); มุ่นน้ำ (เพชรบูรณ์); อะโน (ปัตตานี)

ชื่อวิทยาศาสตร์ Elaeocarpus grandiflorus J.E. Smith

วงศ์ Elaeocarpaceae

ลักษณะเป็นไม้ต้น สูงได้ประมาณ 30 ม.

ใบ 

หูใบร่วงง่าย ใบเดี่ยวเรียงเวียนสลับ รูปไข่กลับหรือรูปใบหอก ยาว 7-19 ซม. ปลายใบแหลม โคนใบรูปลิ่ม ขอบใบจักฟันเลื่อย แผ่นใบด้านล่างมีขนสั้นนุ่มหรือเกือบเกลี้ยง เส้นแขนงใบมี 6-9 คู่ ด้านล่างมักมีต่อมใบ ก้านใบยาว 0.5-4 ซม.

ดอก

ดอกออกเป็นช่อตามซอกใบ ยาว 6-10 ซม. ก้านดอกย่อยยาวประมาณ 2.5 ซม. กลีบเลี้ยงและกลีบดอกมีจำนวนอย่างละ 5 กลีบ กลีบเลี้ยงรูปใบหอก ยาว 1-1.5 ซม. ผิวเกือบเกลี้ยงทั้งสองด้าน กลีบดอกรูปไข่ ยาวประมาณ 1.5 ซม. ผิวมีขนกระจายทั้งสองด้าน มีริ้วขนที่โคนกลีบด้านใน 2 ริ้ว ยาวประมาณ 0.6 ซม. ปลายกลีบจักเป็นครุย ยาวประมาณ 0.3 ซม. เกสรเพศผู้รูปแถบ มี 25-60 อัน ติดบนจานฐานดอก ยาวประมาณ 1 ซม. ปลายอับเรณูเป็นรยางค์แข็ง จานฐานดอกหยักเป็นพู 10 ไม่ชัดเจน รังไข่มี 2 ช่อง รูปไข่ มีขนสั้นหนาแน่น ก้านเกสรเพศเมียรูปลิ่มแคบ มีขน ยอดเกสรแหลม

ผล

ผลแบบมีเมล็ดเดียวแข็ง (stone) รูปรี ยาว 3-4 ซม. ปลายและโคนแหลม ก้านผลยาว 2-6 ซม. 

ข้อมูลจาก http://web3.dnp.go.th/botany

ดอกตูมเหมือนดอกบัว

ดอกบานก็สวย

ดอกบาน กลีบดอกร่วงหลุดง่ายมาก

ดอกตูม ดอกบาน กลีบ เกสร และผล

ดอกไม้ทำบุญ ล้วนสร้างบุญกุศล สร้างความอิ่มเอมใจ 

และแม้ในยามไม่ได้ไปวัด ดอกไม้ก็สร้างสวยในบ้าน ในสวนและสวยได้ในใจเรา

©สุภฎารัตน์

ข้อความ + ภาพประกอบ หากนำไปใช้ กรุณาอ้างอิงเว็บนี้ด้วยนะคะ