การทำบุญด้วยสังฆทาน ในรูปแบบของสังฆทานสำเร็จรูป ยังคงได้รับความนิยมอยู่มาก แม้บางท่านจะรู้ว่าสังฆทานถังเหลือง หลายกลุ่มไม่มีคุณภาพแต่ก็ยังหิ้วไปทำบุญ เพื่อแลกบุญ
แม้สังฆทานจะมีกฎหมายกำกับดูแล คือ กฎหมายที่เกี่ยวกับสินค้า สิ่งของเครื่องใช้ที่นำมาใส่ในถังเหลืองและ กฎหมายกำกับดูแลด้านฉลากที่ต้องติดให้เห็นชัดเจน แต่ก็ยังมีสังฆทานไม่ติดฉลาก สิ่งของเครื่องใช้ในถังเหลืองไม่มีคุณภาพ ไม่มีประโยชน์ที่วัด หรือพระ-เณรจะนำไปใช้ประโยชน์
สังฆทานยา ก็ต้องทำกฎหมาย คือ ติดฉลากให้ถูกต้อง เพราะเมื่อบรรจุในกล่องแล้ว ผู้ซื้อจะไม่ทราบ ดังนั้นต้องติดฉลากให้มีข้อมูลครบ ทั้งเป็นการทำตามกฎหมายและเพื่อให้ผู้ซื้อและพระ-เณร อ่านแล้วได้ประโยชน์ ดังนั้นในฉลากติดหน้ากล่อง ควรมีชื่อยา สรรพคุณ วิธีใช้ ปริมาณ วันเดือนปีหมดอายุ
ปัจจุบันสังฆทานได้รับความนิยมมาก แต่ก็มีบางประเด็นที่ยังเป็นข้อกังขา และมีข้อคิดควรใส่ใจ เพื่อให้สังฆทานยาได้ประโยชน์ ดังนั้น สำหรับผู้ขายและผู้ซื้อ ควรใส่ใจในปัญหาเหล่านี้ คือ
ประการแรก สังฆทานยา ทำไมขายในร้านสังฆภัณฑ์ได้ ก็เพราะยาในสังฆทานยาส่วนใหญ่เป็นยาสามัญประจำบ้าน ซึ่งยาสามัญประจำบ้าน มีทั้งยาสามัญประจำบ้านแผนปัจจุบัน สังเกตว่า จะมีกรอบสีเขียว พิมพ์คำว่า ยาสามัญประจำบ้าน อีกกลุ่มหนึ่ง คือยาสามัญประจำบ้านแผนโบราณ ซึ่งก็จะข้อมูลที่ฉลากเช่นกัน
ยาสามัญประจำบ้าน สามารถขายได้ทั่วไป แต่ก็ต้องระมัดระวัง หากมียากลุ่มอื่นที่ไม่ใช่ยาสามัญประจำบ้าน ตามพรบ.ยา ถือว่า ผิดกฎหมายแม้ว่าจะไม่ใช่ขายยาโดยตรงแต่ใส่เป็นกล่องจัดเป็นชุดสังฆทานและขายในที่อื่นที่ไม่ใช่ร้านยาก็ถือว่าผิด พรบ.ยา
ประการที่สองคือ ในสังฆทานยา มักจะมีผลิตภัณฑ์สมุนไพร ผลิตภัณฑ์สุขภาพ หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เช่น วิตามิน สมุนไพร กลุ่มผลิตภัณฑ์ชนิดต่างๆ กลุ่มนี้ ผู้ประกอบการที่นำมาผลิตภัณฑ์เหล่ามาใส่ในกล่องสังฆทานยา ควรเลือก กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากครบถ้วน และไม่ควรเป็นกลุ่มที่มีการขายที่เข้าข่ายโฆษณาหลอกลวง โม้เกินจริง สำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ พระ-เณรที่รับถวาย เพื่อจะใช้ ควรอ่านฉลากให้ถ้วนถี่ก่อนใช้
ไม่นานมานี้ มีอสม.โทรถามว่า มีคนเอายาน้ำสมุนไพรมาถวายพระ ซึ่งท่านอาพาธด้วยโรคไต ควรให้ท่านฉันหรือไม่ กรณีเช่นนี้ มักเกิดขึ้นเสมอ
ประการที่สาม สังฆทานยา ที่ขายในร้านของชำ ห้างสรรพสินค้า หรือ ร้านสังฆภัณฑ์ มักจัดทำไว้ขายในช่วงเวลานาน, วางในที่ร้อน หรือหน้าร้านที่มีแสงแดด,ใส่ในกล่องพลาสติกที่อับร้อน ลักษณะเช่นนี้ จึงอาจมีความเสี่ยงที่จะพบปัญหา เช่น ยาหมดอายุ,ยาเสื่อมสภาพ เป็นต้น
สำหรับผู้ซื้อหรือผู้ทำบุญที่ต้องการเลือกทำบุญ ด้วยสังฆทานยา มีข้อแนะนำดังนี้
การซื้อ ควรเลือกสังฆทานยาสำเร็จรูป ควรเลือกที่มีฉลากถูกต้อง วางขายไม่โดนแสง ไม่เก่าเก็บ ไม่ปะปนกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่อาจทำให้ยาเสื่อมสภาพ
การจัดยาเอง ควรหาข้อมูลก่อนว่า ที่วัดที่เราจะไปทำบุญนั้น มีความต้องการใช้ยาใดบ้าง เพราะมีวัดที่อยู่ห่างไกล ยังมีความต้องการยากลุ่มยาสามัญประจำบ้าน ทั้งเพื่อพระ-เณรในวัด และบางทีชาวบ้านก็มักจะมาพี่งพายาที่วัดด้วย ยิ่งหากเราทำบุญด้วยกันเป็นหมู่คณะ ก็ควรหาข้อมูลก่อน เมื่อได้ข้อมูลแล้ว ควรไปซื้อยาที่ร้านยาที่มีเภสัชกรประจำ และควรแจ้งว่าต้องการซื้อยาไปทำบุญ
หากจะถวายยาหรือผลิตภัณฑ์สุขภาพ ให้กับพระ-เณรที่ท่านอาพาธ ควรปรึกษากับแพทย์ก่อน
สำหรับวัด-พระ-เณรที่รับถวายสังฆทานยา ขอกราบอนุญาตแนะนำว่าควรรีบแกะกล่องพลาสติกสังฆทานยา แล้วแยกยาออกเป็นกลุ่มๆ ดูวันเดือนปีหมดอายุอีกครั้ง หากยาดูมีสภาพไม่เหมาะสม เช่น ฉลากดูซีดเก่า ต้องแยกออกไปแม้ว่าจะยังไม่หมดอายุ
เมื่อแยกยาแล้ว ควรนำไปเก็บไว้ในตู้ยา จัดวางเรียงให้หยิบใช้ง่าย พร้อมถือโอกาสสำรวจยาเดิมที่มีอยู่ในตู้ยา ว่ามียาหมดอายุ หรือแกะกล่องไว้นาน อาจหมดสภาพ นำเอาออกไปทิ้ง(เนื่องจากบ้านเราการทิ้งยาในบ้านหรือส่วนบุคคล ยังไม่ได้กำหนดชัด ดังนั้นสำหรับยาทั่วไปเวลาทิ้งยาต้องใส่ถุงพลาสติก ทำลายสภาพไม่ให้นำไปใช้ต่อได้)
และหากวัดใดได้รับสังฆทานยามาก ควรส่งต่อไปถวายยังวัดอื่น หรือส่งต่อไปยังโรงเรียน ศูนย์สุขภาพชุมชน เพื่อให้ใช้ประโยชน์ต่อไป
สังฆทานยา จะได้ประโยชน์ เราควรมีความรู้ความเข้าใจในการซื้อหรือเลือกจัดถวาย
หมายเหตุ ลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ไทยนิวส์ ฉบับวันอังคาร ที่ …4 กย 55..คอลัมน์คุ้มครองผู้บริโภค หน้า 7