มีหลายท่านถามมา ว่าเกาลัดไทย กินอย่างไรก่อนอื่นต้องบอกกันก่อนว่า ไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องเกาลัดไทย แต่ปลูกที่บ้านมาหลายปี ดูดอกดูผล ก็ชอบมาก
บางปีช่วยกันกับเพื่อน ตอนกิ่ง แล้วเพื่อนก็ไปปลูกที่วัด บางปีทำเอง ได้ไม่กี่ต้น ใครขอก็ให้ พอมีผล ก็ต้มเอาไปแจก
ถ่ายภาพ ดอกบ้าง ผลบ้าง เหตุฉะนี้ จึงมีคนถาม
ครั้งแรกที่ไ้ด้กินเกาลัดไทย ตอนนั้น ที่บ้านยังไม่มีดอกไม่มีผล ไปบ้านเชีียงราย ผ่านมากาดแม่ขะจาน ก็มีชาวบ้านต้มเอาขาย ถามดู แล้วก็ซื้อมากิน
ก็อร่อยได้ใช้ สำหรับคนที่มีพื้นฐานของกินลูกก่อ ชอบกินเมล็ดขนุนต้ม ชอบกินเกาลัด
รสไม่หวานเท่าเกาลัด ไม่มีแป้งมากเท่าขนุน แต่สีสวยกว่าทุกอย่างที่กล่าวมา
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่ชอบ คือ เมล็ดจะมียางๆลื่นๆ เคยเห็นชาวบ้านเอามาขาย จะมียางเหนียวติดมือ
ดังนั้น เมื่อเอาต้มเอง จึงทำดังนี้
-แกะออกจากฝัก ล้างน้ำ
-ต้มน้ำเดือด พอสังเกตว่า บางลูกเริ่มแตก ก็ปิดไฟ ยกลง ช้อนเอาเมล็ดที่ต้มสุก ลงในน้ำ เปิดน้ำ ล้าง จนหมดยาง
ที่จริงถ้าเราต้ม จนเปลือกเม็ดแตกจะแกะง่าย แต่มันไม่แตกทุกเม็ด ทำไงดี
ที่นี้ลองใหม่เอาต้มอีกรอบ ได้ผลแฮะ เม็ดแตกมากขึ้น กินง่ายขึ้น
ไม่รู้ว่าท่านอื่นมีวิธีกินแบบไหน
แต่ที่แน่ๆ ถ้ามียางเวลาต้ม พอสุกได้ที่ที่ชอบแล้ว ควรเอามาล้างน้ำ จนหมดยาง จะทำให้กินง่าย
ทั้งปีนเก็บจากต้น และสอยกิ่งที่อยู่ไกลมือ
ใส่ตะกร้า
แกะเมล็ดออกมา เตรียมไปต้ม
พอผ่าออก จะเห็นเนื้อสีเหลือง
มีข้อสังเกตว่า ที่ต้น หรือที่ฝัก บางทีจะเห็น ยางหรือเรซินใสๆ แบบนี้
ซึ่งหากค้นข้อมูลก็จะมีข้อมูลน่าสนใจเรื่องเรซินจากเกาลัดไทย
จากhttp://th.wikipedia.org/เกาลัดไทย ดังนี้
จะเห็นว่า มีการระบุถึงเรซิน
ล้างก่อนต้ม จะสังเกตว่า มีฟอง แต่พอเราแตะมือไปที่ฟองจะไม่ติดมือเรา
ล้างสักแป๊บเดียวก็พอ เอาไปต้มได้เลยค่ะ
หลังจากต้ม น้ำเดือด ต้มจนสุก สังเกตว่า มีเม็ดแตก(แต่เมล็ดดิบบางทีก็แตกจากต้น) ก็เอามาล้างน้ำเย็น น้ำสะอาดจากก๊อกก็พอ เพราะถ้าไม่ล้าง จะมียางเหนียว เวลากินติดมือ ไม่น่ากิน
ส่วนตัว ชอบต้มก่อน น้ำเดือดสักพัก เอามาล้างน้ำ แล้วเอาไปต้มใหม่ จะทำให้ เม็ดแตกมามากขึ้น แกะง่ายขึ้น
ต้มสุกแล้วจะได้สีเหลือง เข้มขึ้น
เทียบกับผลดิบ
หน้าฝนนี้ ตอนกิ่งเอาไว้แบ่งปันกัน ก็ดีค่ะ เป็นพืชใบตลอดปี ต้นทรงสวย ตัดแต่งกิ่งง่าย ดอกสวย ผลสวย
และกินอร่อย
© สุภฎารัตน์