จวน(ชวน)ลูกไปวัด ทำบุญวันแม่

0
2786

หลักสำคัญของการทำบุญคือการได้ศึกษาธรรมะ  ทำบุญวันแม่กั๋นเต๊อะเจ้า

         วันแม่คือวันสำคัญที่ลูกหลาน จะมองหาของขวัญหรือทำอะไรพิเศษให้แม่ หรือให้แม่อุ้ย แต่ในทางกลับกัน ก็อาจมีไม่น้อย ที่ผู้เป็นแม่กลับเป็นฝ่ายวางแผน ว่าจะชวนลูกทำอะไร ที่แตกต่างไปจากชีวิตประจำวัน

ผู้เขียนจึงอยากจะชวนผู้เป็นแม่ และแม่อุ้ยทั้งหลาย เป็นคนจวน(ชวน)ลูกหลานไปทำบุญที่วัด ซึ่งอาจไม่ใช่เรื่องยากนัก หากไปทำบุญแล้วกลับ แต่ถ้าการทำบุญนั้น ใช้เวลาเป็นการปฏิบัติธรรม หรือไปทำบุญหลายวัด เพื่อจะได้เป็นแรงจูงใจให้ลูกสนใจหลักธรรม ก็อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก หากลูกของเราไม่เคยชิน หรือมีนัดแล้วกับเพื่อนๆ หรือบางคนกลัวพลาดจากหน้าจอโทรศัพท์ ที่สื่อสารออนไลน์ กับเพื่อนไม่ให้ขาดตอน

การชวนลูกไปวัด จะสื่อสารแบบไหนจึงจะได้ผลสำหรับในบ้าน บางคนชวนคำสองคำก็เออออไม่เป็นปัญหา ชวนกันไปวางแผนกันไป บางคนชวนคำสองคำไม่ไปก็ไม่รู้จะทำอย่างไร พูดมากเดี๋ยวผิดใจกัน สู้ตามใจจะดีกว่า

สมัยก่อน การไปวัดเป็นธรรมชาติ อุ้ยไป หลานไป แม่ไป ลูกไป ก่อนไปก็มีการช่วยกันดาครัว ห่อนึ่ง ทำข้าวหนม แป๋งสวยดอก เกียมข้าวตอกดอกไม้ เกียมน้ำหยาด เกียมส้าไปวัด

แต่ปัจจุบัน การไปวัด ไปแต่ตัว ทุกอย่างซื้อหมด ไม่ได้ทำเอง ไม่มีอะไรถ้าเตรียมไม่ทัน ก็เอาเงินทำบุญบริจาค ดังนั้น การไปวัดไปทำบุญจึงไม่ควรจะชวนเพียงแค่ไปด้วยกัน แต่ควรเป็นการดาครัวไปทำบุญด้วยกันด้วย เพราะการดาครัว จะทำให้เกิดความใกล้ชิดระหว่างในครอบครัว แม่สอนแม่บอก อุ้ยสอนอุ้ยบอก ค่อยๆซึมซับทำตามไปทีละน้อย

นอกจากการดาครัวแล้ว ยังอาจต้องช่วยกันดูเรื่องเครื่องแต่งตัว มีบางวัด ถึงกับรณรงค์ไม่ให้นุ่งสั้นเข้าวัดกันเลยทีเดียว เพราะถ้าเป็นวัดท่องเที่ยว ก็อาจมีผ้าถุงบริการ คนนุ่งสั้นก็ไม่ใส่ใจ นุ่งผ้าถุงตามที่เขาเตรียมให้ก็จบๆกันไป

ทั้งนี้อาจเป็นเพราะ การไปทำบุญ อาจเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเมื่อเราจากบ้าน ที่อาจจะไปซื้อของ ไปเที่ยว จึงแต่งกายด้วยวัตถุประสงค์อื่นเป็นหลัก

อีกมุมหนึ่ง วัดเป็นนึ่งในเส้นทางท่องเที่ยวด้วย ดังนั้นการแต่งกายจึงดูอาจไม่เหมาะสม

ซึ่งต่างกับสมัยก่อน การไปวัดคือไปวัด จึงแต่งกายเพื่อไปวัด แล้วกลับบ้านก่อน จะไปทำธุระที่อื่นก็เป็นอีกเรื่อง ก็จะแต่งกายตามความต้องการ

อย่างไรก็ตามการไปวัด เป็นการสำรวม พิจารณาถึงความเหมาะสม คำนึงถึงประเพณี อีกทั้งเป็นการช่วยกัน ไม่ให้มีจุดด่างพร้อยอื่นใดที่ไม่เหมาะสม

การแต่งตัวสมัยนี้ นิยมนุ่งขาวห่มขาว การใส่เสื้อผ้าตามวิถีเดิมๆหายไป ที่จริงการนุ่งขาว น่าจะเริ่มมาจากการปฏิบัติธรรมเป็นกลุ่มใหญ่ ที่ต้องมีวินัยสำหรับคนหมู่มาก อีกทั้งดูสีขาวแล้วเป็นเหมือนสัญญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ แต่ก็ดูเหมือนว่า เป็นที่ยอมรับกันว่าไปวัดต้องนุ่งขาว จึงขอแนะว่าควรระวัง สำหรับผ้านุ่งขาว อาจเป็นผ้าเนื้อบางหรือโปร่งแสง ได้ยินบางท่านบ่นกังวลเหมือนกันเวลานุ่งขาว ว่าเปื้อนง่าย ดูแลยาก มีรอยด่างดำง่าย สำหรับผู้เขียนคิดว่า ชุดไปวัดที่สวยที่สุด คือชุดเมืองๆของชาวบ้านแม่แจ่ม และชุดเมืองๆของหมู่เฮาทั้งหลาย การจะใส่ชุดใดไปวัด สำคัญเพียงความเหมาะสม ตามประเพณี จะลุกจะนั่งจะได้ไม่กังวล

การเตรียมอาหารไปตักบาตรหรือไปถวายพระ ก็ควรชวนลูกหลานช่วยกันเตรียม เพราะอาหารชุดใส่บาตรสำเร็จรูป สังฆทานถังเหลือง ล้วนเป็นสิ่งเจนตาของคนหนุ่มสาว คิดว่าไปทำบุญ ก็ซื้อที่เขาขายนะแหละ ซึ่งอันที่จริง เป็นค่านิยมที่ผิด บางคนจะทำบุญ อันดับแรกก็ซื้อน้ำส้มใส่มาเป็นแพคๆเตรียมไว้ก่อน ซึ่งในชีวิตประจำวันตนเองจะไม่ดื่ม ไม่กิน แต่กลับเตรียมไปถวายพระ ดังนั้น การเตรียมอาหารด้วยความเอาใจใส่ ร่วมกันกับลูกหลาน จะช่วยให้ลูกหลานได้ตระหนักว่า การทำบุญที่เหมาะสมได้ประโยชน์ ลดอาหารที่ไม่มีคุณค่าโภชนาการในการทำบุญ นั้นเป็นการทำบุญที่จะได้บุญกุศลแท้จริง

การไปวัด จะได้ประโยชน์มากหากเราไปด้วยตั้งใจ ไม่มีอคติ หรือ รีบไปรีบมาเกินไป เพราะหลักธรรมของพุทธศาสนา เป็นเข็มทิศชีวิตของเรา ในโลกนี้มีสิ่งยั่วยุมากมาย มีข้อมูลข่าวสารจริงเท็จปะปนกัน และเราก็ไล่ล่าความต้องการไม่สิ้นสุด

หลักสำคัญของการทำบุญคือการได้ศึกษาธรรมะ  ดังนั้นการไปวัดคือคือกิจกรรมทางศาสนาเป็นโอกาสของการได้ศึกษาธรรมะ

วันแม่ปีนี้ แม่ควรเสริมสร้างหลักการของชีวิตให้ลูกของเรา ให้หลานของเรา ด้วยการจวนลูกไปวัด ทำบุญวันแม่ กั๋นเต๊อะเจ้า

©สุภฎารัตน์ สุธีพรวิโรจน์

หมายเหตุ ลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ไทยนิวส์ ฉบับวันพุธที่  …8 สค 55…..คอลัมน์ภูมิปัญญาเพื่อสุขภาพ หน้า  5