เป็นยอดปรารถนา เป็นอุดมคติของทุกคน เมื่อเรามีรักย่อมต้องการความสุข แต่เหตุไฉนจึงมีคำกล่าวว่า เมื่อมีรักย่อมมีทุกข์ และคำกล่าวนี้เป็นจริงเสียด้วย ในหลายๆสถานการณ์ แต่อาจไม่ใช่เช่นนั้นเสมอไป
มีรักใด รักแบบไหน รักใคร รักอย่างไร ที่จะเป็นรักที่เราสามารถได้รับความสุขนั้น และหากจะมีอุปสรรค หรือมีความทุกข์ ก็จะสามารถฟันฝ่า จัดการ หรืออดทนรอคอยได้
รักตนเอง รักอย่างซื่อสัตย์ จริงใจต่อตนเอง ให้ความรักต่อสุขภาพของตนเอง อดทน เรียนรู้การสร้างสุขภาพ เมื่อเจ็บไข้ได้ป่วย ก็รักที่จะรู้และยอมรับการรักษา สร้างค่านิยมการกินที่ดีต่อสุขภาพ รักการออกกำลัง รักตนเองในการพัฒนาตนเอง เรียนรู้อยู่เสมอ รู้จักข้อบกพร่องของตนเอง รู้จักข้อดีของตนเอง ต้องระวังอย่าให้ตนเองตกอยู่ในอบายมุข
รักในการทำหน้าที่ของตนเอง กำลังอยู่ในวัยเรียนก็รักที่จะเรียน ในวัยทำงานรักที่จะทำงาน รักในความเป็นพลเมืองไทย ที่ควรจะต้องรู้สิทธิ กฎหมาย กติกาของสังคม รักความเป็นคนไทย
รักบ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง รักความเป็นชาวนาชาวไร่ รักในความเป็นคนเมือง คนยอง คนม้ง คนเย้าฯลฯ รักภาษา รักวัฒนธรรม รักประเพณี รักถิ่นฐานบ้านเรา ภาคภูมิใจในวิถีเป็นอยู่ของเรา ภูมิปัญญาของเรา รักที่จะพูดจาดี กิริยาดี รักที่จะเป็นคนมีน้ำใจ
รักในความชาวพุทธ รักในศาสนาของตนเอง นับถือ ปฎิบัติตามคำสอนของศาสนาของตนเอง นำคำสอนของศาสนาเป็นเครื่องนำทางของชีวิต นำธรรมะกำกับสติปํญญา
รักพ่อแม่ รักญาติพี่น้องปู่ย่าตายาย มีความกตัญญูกตเวที ศรัทธาและเชื่อฟังคำสอนของพ่อแม่ ดูแลปรนนิบัติพ่อแม่ทั้งในยามปกติชีวิตประจำวัน ตราบจนท่านแก่เฒ่าหรือเจ็บป่วย หากอยู่ห่างไกล ยังนำคำสอนของพ่อแม่มาไตร่ตรองนำสติอยู่เสมอ สื่อสารกับพ่อแม่อย่าได้ละเว้น มีเรื่องเล่า เรื่องคุยต่อกันและกัน
เช่นเดียวกับพ่อแม่ ที่รักลูกทั้งหลาย ซึ่งในปัจจุบันสังคมหรือเทคโนโลยีอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปจากยุคสมัยของพ่อแม่ ที่อาจทำให้เกิดช่องว่างมากขึ้น แต่หากใช้ความรักความเข้าใจเป็นตัวนำ และสื่อสารกันบนพื้นฐานของความรัก พร้อมให้อภัย พร้อมให้คำปรึกษา พร้อมรับฟัง และยอมรับความผิดพลาดใดๆที่อาจเกิดขึ้น ช่วยกันแก้ไข ช่วยกันคิดในครอบครัว
จากตนเองและครอบครัว เราช่วยกันรักสังคม รักธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมของเรา รักประเทศไทยของเรา แม้ในสังคมจะมีความซับซ้อนมากขึ้น แต่เราเป็นส่วนหนึ่งของสังคม จึงควรมีส่วนร่วมกับผู้คนอื่นๆ ช่วยกันดูแล ด้วยความอดทน และพัฒนาตนเองที่จะเรียนรู้ในการจัดการเรื่องราวของสังคมในด้านต่างๆ
ด้วยอาชีพการงานร้อยแปดหมื่นแสนอาชีพ อาจมีเป้าหมายที่แตกต่างกัน บ้างต้องการคุณภาพชีวิตที่ดี ต้องการเลี้ยงชีพ บ้างต้องการผลกำไร ต้องการร่ำรวย ดังนั้นการเคารพกติกา กฎหมายจึงมีความจำเป็น รวมทั้ง ความจำเป็นด้านคุณธรรม จริยธรรม ไม่เอารัดเอาเปรียบกัน แม้ไม่จำเป็นต้องรักกัน แต่อย่างน้อยควรเคารพในศักดิ์ศรี รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา
และแน่นอนว่า หนึ่งในความรักที่เรา มักให้ความสำคัญในอันดับต้นๆคือ ความรักในฐานะคู่รัก ในฐานะคู่สมรส ซึ่งนับวัน ก็สะท้อนให้เห็นถึงปัญหามากขึ้น ยิ่งในสังคมที่มีการสื่อสารที่รวดเร็ว สารพัดรูปแบบตามต้องการ ก็ยิ่งทำให้ความเป็นส่วนตัว การเลือก หรือกระแสสังคมนำพา ที่จะมีความรักแท้รักเทียม รักชั่วคราวรักตามอารมณ์ รักหลงใหลคลั่งไคล้ รักผิดที่ผิดทาง รักๆเลิกๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นปรากฎการณ์ที่ท้าทายคำสอนความเชื่อตามโบราณประเพณี หรือแทบไม่มีความเชื่อความศรัทธาเหลืออยู่เลย รักแบบนี้แหละที่น่าจะตำรา มีรักมีทุกข์มากที่สุดในบรรดาความรัก
แต่ก็มีจำนวนไม่น้อย ที่มีความรักในวัยหนุ่มสาวแล้ว มีความสุข เมื่อแต่งงาน ก็สามารถดูแลกันและกันฟันฝ่าสิ่งกระตุ้นต่างๆที่เข้ามาท้าทายความเป็นครอบครัว
เราจึงควรเลือกที่จะรัก อย่างเหมาะสม ตามวัยที่สมควร รู้จักยับยั้งใจ ระวังตนเอง ไม่ให้ตกอยู่ในสถานการณ์หรือสิ่งแวดล้อมที่อาจเสี่ยงต่อรักที่ไม่จีรัง หรือรักที่เป็นทุกข์(ทีหลัง)
ทุกแห่งที่มีความรัก ทุกเรื่องที่เรารัก หากมีสติกำกับเสมอ พัฒนาตนเองและรู้เท่าทันความรัก รู้เท่าทันเรื่องที่เรารัก จะช่วยให้รักนี้ มีความสุขอย่างแท้จริง
สุภฎารัตน์ สุธีพรวิโรจน์